พัฒนารสนิยม (2.67/3)
|
|
|
คนเราต้องพัฒนารสนิยม ของตัวตัวเองอยู่เสมอ คำว่ารสนิยมนั้นหมายถึงสิ่งที่เราชอบ เพลงที่เราชอบฟัง หนังที่เราชอบดู เสื้อผ้าที่เราชอบใส่ หนังสือที่เราชอบอ่าน บทสนทนาที่เราชอบพูดคุย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก คนเรานั้นรสนิยมต้องใกล้เคียงกันจึงจะอยู่ด้วยกันได้ดี เพราะถ้าอีกฝ่ายหนึ่งมีรสนิยมในการแต่งตัวที่ค่อนข้างจะเนี้ยบแต่อีกฝ่ายหนึ่งนั้นมีรสนิยมในการแต่งตัวค่อนข้างจะเฟอะฟะก็จะไปด้วยไม่ได้ ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งชอบฟังเพลงแบบหนึ่งอีกฝ่ายหนึ่งไม่ชอบฟังเพลงแบบนั้นเลย ทั้งสองคนก็อาจจะต้องทะเลาะกันจนได้ ถ้าฝ่ายหนึ่งชอบอ่านหนังสือแบบหนึ่งแล้วอีกฝ่ายหนึ่งชอบอ่านหนึ่งสือแบบหนึ่งแล้วก็มานั่งเถียงกันว่าเรื่องไหนจะดีกว่ากัน ก็คงจะเถียงกันไม่มีวันจบ มีคนกล่าวไว้ว่า ศาสนา การเมือง และรสนิยม เป็นสิ่งที่ไม่ควรนำเอามาเถียงกันเพราะถกเถียงกันเท่าไหร่ก็หาที่จบไม่ได้ เพราะการเมืองนั้นเป็นลัทธิแห่งการเชื่อถือ ศาสนาเป็นเรื่องของศรัทธา และรสนิยมเป็นเรื่องของความชอบ สามอย่างนี้ถ้าจะทะเลาะกันจนได้ข้อยุติเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้เราปรับรสนิยมเข้าหากันได้จะดีที่สุด แต่หากเราปรับรสนิยมเข้าหากันไม่ได้อย่างน้อยต้องรับรสนิยมซึ่งกันและกันให้ได้ แต่คนที่มีรสนิยมแตกต่างกันมากๆ ในการที่จะปรับให้ยอมรับรสนิยมซึ่งกันและกันบางทีนั้นก็เป็นไปได้ยากมาก จึงสมควรที่จะต้องปรับรสนิยมเข้าหากันให้ใกล้กันมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อที่จะให้เราสองคนที่รักกันทำอะไรร่วมกันได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไปดูหนังเรื่องเดียวกันได้ ฟังเพลงเพลงเดียวกันได้ อ่านหนังสือแนวเดียวกันได้ พูดคุยบทสนทนาในหัวข้อเดียวกันได้ การอยู่ด้วยกันนั้นเราต้องหมั่นพูดคุยกัน บ่อยๆ การเลือกหัวข้อในการพูดคุยนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ประการแรกเราจะต้องพยายามเลือกในเรื่องที่เราสองคนนั้นต่างสนใจด้วยกัน ประการที่สองเราต้องเลือกเรื่องที่เราสองคนพูดกันแล้วจะไม่มีความขัดแย้งกัน ประการที่สามถ้าเราเป็นฝ่ายเลือกหัวข้อในการที่จะพูดคุยควรจะเลือกพูดในสิ่งที่คนที่เราภุมิใจ เพื่อเปิดโอกาสเขาได้พูดในสิ่งที่เราภูมิใจและทำให้ตัวเขาเองรู้สึกว่าเขามีคุญค่า อย่าเลือกพูดในสิ่งทีเรานั้นสนใจเพียงคนเดียวหรือความภาคภูมิใจ เพราะในการที่เขาจะต้องพูดยกยอปอปั้นเราในเรื่องที่เราเลือกที่จะพูดนั้นจะทำให้คนที่เรารักรู้สึกว่าตังเองต่ำต้อยลง เพราะไม่ได้พูดในสิ่งที่ตัวเองมีความเด่นมีความดี ที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือว่าช่วงเวลาที่โต๊ะอาหารนั้นไม่ควรจะพูดเรื่องที่เป็นปัญหาเพราะจะทำให้การกินอาหารด้วยกันไม่อร่อย เวลาที่เจอหน้ากันเป็นปัญหาเพราะจะทำให้การกินอาหารด้วยกันไม่อร่อยเวลาที่เจอหน้ากันอย่าให้เรื่องเราสนทนาเป็นเรื่องที่เป็นปัญหาทุกครั้งไป ให้พูดถึงเรื่องที่ทำเราเกิดความสุขบ้าง บางครั้งเรานั้นเจอหน้ากันเอาแต่ปัญหามาคุยกันกันย่อม ทำให้คนที่เรารักนั้นเบื่อไม่ยากเจอหน้าเรา เพราะเจอหน้าที่ไรต้องคุยถึงเรื่องปัญหาทุกทีไป ที่สำคัญที่สุดก็อย่านำปัญหามาคุยกันบนเตียงนอน เพราะว่าเตียงนอนไม่ใช่ที่แก้ปัญหาถึงเวลานั้นเราต้องอยู่ในช่วงที่อารมณ์ดีที่สุด มีความสุขที่สุด ไม่มีปัญหาอะไรที่จะทำให้ความต้องการทางเพศนั้นลดถอยลงไปเนื่องจากหงุดหงิดกับปัญหาขึ้นมาทันทีที่ดับไฟแล้วอยู่ด้วยกันบนเตียงเพียงสองคน | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
pop! - อ่านมากกว่า 5,000 ครั้ง cool! - อ่านมากกว่า 10,000 ครั้ง Too Hot! - อ่านมากกว่า 30,000 ครั้ง