นับระยะปลอดภัย (4/13)
|
|
|
เป็นวิธีการคุมกำเนิดวิธีหนึ่ง....เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่มีประจำเดือนมาสม่ำเสมอ..แต่วิธีการนี้มักได้ผลไม่แน่นอน การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ เท่านั้นตามปกติแล้วตัวอสุจิเมื่อหลั่งออกมาจากอวัยะเพศชายไปอยู่ในช่องคลอด จะมีชีวิตอยู่ได้ ประมาณ 48 ชั่วโมง ประกอบกับ เมื่อไข่ตกแล้วจะมีชีวิตอยู่ได้ ประมาณ 24 ชั่วโมงดังนั้นในรอบเดือนหนึ่งๆผู้หญิงจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 3 วันเท่านั้นรอบเดือนของ ผู้หญิง 28 วันไข่จะสุกและตกราวๆ วันที่ 13-15 ของ รอบเดือนนั้นนับตั้งแต่วันแรกที่ประจำเดือนมา การคุมกำเนิดโดยการเลือกระยะปลอดภัยนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือ และ ความเข้าใจกัน ระหว่างสามีภรรยาซึ่งกระทำได้ 3 วิธีคือ 1. วิธีคำนวณระยะปลอดภัยจากปฏิทิน วิธีนี้เป็นวิธีที่ นิยมมากที่สุดโดยการคำนวณจากบันทึกประจำเดือนในระยะ 6-12 เดือนที่ผ่านมาว่ารอบเดือนที่สั้นที่สุด และยาวที่สุด เป็นเท่าไร แล้วจึงเอา 18 ลบออกจากจำนวนวันของ รอบเดือนที่สั้นที่สุดจะได้วันแรกของระยะที่ไม่ปลอดภัยและเอา 11 ลบจากจำนวนวันของ รอบเดือนที่ยาวที่สุด จะได้วันสุดท้าย ของระยะที่ไม่ปลอดภัย ตัวอย่าง เช่น ถ้าประจำเดือนมาสม่ำเสมอทุก 4 สัปดาห์หรือ 28 วันวันแรกที่ไม่ปลอดภัยคือวันที่ 28-18 =10 วันสุดท้ายที่ไม่ปลอดภัยคือระหว่างวันที่28-11เพราะฉะนั้นเป็นระยะที่ไม่ปลอดภัย คือระยะ ระหว่าง วันที่10-17ของ รอบเดือน นับตั้งแต่วันแรกของประจำ เดือนครั้งสุดท้าย 2.วิธีวัดอุณหภูมิ ของร่างกาย เป็นวิธีการคุมกำเนินอีกวิธีหนึ่งโดยอาศัย หลักการที่ว่า หลังจากไข่สุกนั้น อุณหภูมิของร่างกายจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากรังไข่ผลิตฮอร์โมนและอิทธิพลต่อศูนย์ควบคุมอุณภูมิของร่างกายสูงขึ้น การวัดอุณหภูมิของร่างกายควรทำตอนเช้าอันเป็นขณะที่ร่างกายมีอุณหภูมิต่ำสุดการวัดอุณภูมิจะวัดทางปากทางช่องคลอด หรือทางทวารหนักก็ได้ ทุกวันโดยใช้เวลา วัดครั้งละ 3 นาทีในช่วงที่มีการตกไข่ คือ ประมาณวันที่ 14 ของรอบเดือนอุณภูมิของร่างกาย จะสูง ขึ้นประมาณ 0.5-0.7 องศาเซนติเกรด อุณหภูมินี้ จะคงอยู่ประมาณ 1-2 วันก่อน ประจำเดือน จะมาดังนั้นการวัดอุณภูมิจะบอกได้ว่าวันใดของรอบเดือนที่ควรหลีก เลี่ยงการร่วมเพศซึ่งอยู่ในช่วง 2-3 วันก่อนตกไข่และช่วงอุณหภูมิสูง ขึ้นในแต่ละรอบเดือน การคุมกำเนิดวิธีนี้ได้ผล ไม่แน่นอนนัก 3.วิธีสังกต ลักษณะมูกที่ปากช่องคลอด วิธีนี้กระทำได้โดย การสังเกตลักษณะมูกจากปากมดลูกที่ไหลมาจากช่องคลอดซึ่งวันที่บ่งบอกว่ามีตกไข่เมื่อใด หลังประจำเดือนหมด ช่องคลอดจะมีลักษณะค่อนข้างแห้งและมูกที่ออกมานั้น จะ มีสีขาวขึ้นไม่ค่อยเหนียวและยืดไม่ได้ ซึ่งลักษณะ ของมูก แบบนี้จะทำให้ ตัวอสุจิไม่สามารถเดินทางผ่านปากมดลูกเข้าไปในโพรงมดลูกแต่เมื่อใกล้ไข่สุก มูกจะมีลักษณะใสเหนียวเหมือนไข่ขาวและยืดได้ซึ่งจะมีมากและเหนียวมาก อันเป็นช่วงที่ไม่ปลอดดภัยในการร่วมเพศ เพราะตัวอสุจิ จะเดินทาง ผ่านปากมดลูก ได้โดยง่ายแต่เมื่อผ่านระยะนี้ไปแล้ว ลักษณะของมูกจะข้นและเหนียวน้อยลงและ เป็นช่วงที่มี โอกาสตั้งครรภ์ก็ได้น้อย วิธีการคุมกำเนิดแบบนี้ได้ผลไม่ค่อยแน่นอนนัก บทความนี้นำมาจาก http://www.DoctorSan.com |
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
pop! - อ่านมากกว่า 5,000 ครั้ง cool! - อ่านมากกว่า 10,000 ครั้ง Too Hot! - อ่านมากกว่า 30,000 ครั้ง